หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Studio in Design 1 Program :: 3.3

Knowing Some Great Architects : POP UP

ออกแบบผลงาน 3 มิติ ขนาด 1.8 x1.8 x1.8 เมตร ด้วยการจัดองค์ประกอบ จุด(Dot) เส้น(Line) ระนาบ(Plain) จากสถาปัตยกรรมต้นแบบ 


ผลงานต้นแบบ


Casa Mila, by Antoni Gaudi, at Barcelona, Spain, 1905 to 1910 

                 งานเริ่มจากการทำงานเป็นกลุ่มโดยเริ่มทำจากการแบ่งกันในกลุ่มทำโมเดลเล็กๆออกมาทั้งหมด 3 ชิ้น เพื่อนำงานมาพัฒนารวมเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้โมเดลใหญ่





                 จุดประสงค์ของการทำ Pop Up นี้ขึ้นมาเพื่อให้พี่บัณฑิตได้ใช้ในการถ่ายภาพในวันพระราชทานปริญญาบัตร ถึงแม้งานออกมมาจะดูไม่ออกว่าเป็นงานต้นแบบ Casa Mila แต่ก็ยังมีบางส่วนของงานที่ยังคงคงสื่อถึงอยู่



คำบรรยาย : งานผิดคาดไปนิดนึงแต่ก็เฟรี้ยวในแบบของมัน ฮ่าๆ
ใครจะไปรู้ว่าอยู่ดีๆๆเราก็แขวนงานส่งอาจารย์ พีคสุดแล้วกลุ่มนี้ :]

Studio in Design 1 Program :: 2.3

Knowing Some Great Architects III
ออกแบบและสร้างผลงาน 2 มิติด้วยการใช้รูปร่าง(Shape)และเทคนิคการจัดองค์ประกอบ


ผลงานต้นแบบ


Esherick House, by Louis I. Kahn, at Chestnut Hill, Pennsylvania, 1959 to 1961


งานชิ้นที่ 1 รูปร่างเรขาคณิต(Geometric) โดยใช้ ความคล้ายคลึง(Similarity) ในการจัดองค์ประกอบ





งานชิ้นที่ 2 รูปร่างเรขาคณิต(Geometric) โดยใช้ การแปรเปลี่ยน(Gradation) ในการจัดองค์ประกอบ



คำบรรยาย : เริ่มชิน! เริ่มชิว! เริ่มไม่คิดที่จะ F ละ.. :]

Studio in Design 1 Program :: 2.2

Knowing Some Great Architects II
ออกแบบและสร้างผลงาน 2 มิติ ด้วยการจัดองค์ประกอบจุด(Dot) เส้น(Line) และระนาบ(Plain)

ผลงานต้นแบบ


Esherick House, by Louis I. Kahn, at Chestnut Hill, Pennsylvania, 1959 to 1961


งานชิ้นที่ 1 ใช้องค์ประกอบจุด, เส้น และระนาบ
สื่อแนวคิดและความหมายของภาพจากภาพต้นแบบ





งานชิ้นที่ 2 เลือกใช้ ระนาบ เป็นองค์ประกอบ
โดยใช้เทคนิคการจัดองค์ประกอบ ความคล้ายคลึง (Similarity)



คำบรรยาย : การผิดโปรแกรมเป็นเรื่องธรรมดาของนิสิตปี 1 :]
ตั้งใจทำมากงานที่สองนี้ แต่ก็ผิดโปรแกรมอยู่ดีสินะ ฮ่าๆๆๆ!!! เอาเถอะ..

Studio in Design 1 Program :: 2.1

Knowing Some Great Architects I
สร้างงานทัศนศิลป์ 2 มิติจากองค์ประกอบในความนึกคิด และองค์ประกอบที่มองเห็น โดยการจัดองค์ประกอบของ จุด(Dot) เส้น(Line) และระนาบ(Plain)


ผลงานต้นแบบ


Esherick House, by Louis I. Kahn, at Chestnut Hill, Pennsylvania, 1959 to 1961


การใช้องค์ประกอบแบบจุด (Dot)



การใช้องค์ประกอบแบบเส้น (Line)


การใช้องค์ประกอบแบบระนาบ (Plain)


คำบรรยาย : การผิดโปรแกรมเป็นเรื่องธรรมดาของนิสิตปี 1 :]
เป็นงานแรกที่ทุลักทุเลพอสมควรผ่านไปได้ถือว่าบุญมาก กิน F ไปสองงานรีเกรดได้ B+ หนึ่งงาน..โย่วว! ^^

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Studio in Design 1 Program :: 01

My Architect My Journey

ให้นิสิตได้ศึกษาและทำความเข้าใจในงานออกแบบของสถาปนิกต้นแบบที่นิสิตมีความสนใจ และถ่ายทอดออกมาเป็นงาน 3 มิติ พร้อมนำเสนองานหน้าชั้นเรียน.. 


สถาปนิกต้นแบบ : Jean Nouvel  
วันเกิด : 12 สิงหาคม 1945
สัญชาติ : ฝรั่งเศส
การศึกษา : นูแวลสอบเอ็นทรานซ์เข้าโรงเรียนวิจิตรศิลป์แห่งเมืองบอร์โดไม่ผ่าน เขาจึงย้ายเข้ากรุงปารีส และได้ชนะเลิศการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนศิลปะชั้นสูงแห่งชาติ จากปี ค.ศ. 1960 ถึง 1970 นูแวลเลี้ยงชีพด้วยการเป็นผู้ช่วยสถาปนิกของโกลด ปาร็อง และปอล วีรีลีโอ ผู้ซึ่งภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว ได้เลื่อนตำแหน่งให้นูแวลขึ้นเป็นผู้จัดการโครงการก่อสร้างอพาร์ตเมนต์คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ 
นูแวลได้สมรสกับออดีล ฟีลียง นักสร้างภาพยนตร์ และมีบุตรชายด้วยกันสองคน คนโตชื่อแบร์ทร็อง เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ระดับ post-doctorate ปัจจุบันทำงานให้กับมหาวิทยาลัยแห่งเมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนปีแยร์ ลูกชายคนรองเป็นนักผลิตละครเวทีและนักออกแบบให้กับบริษัทของตนเองที่ชื่อว่า Factoid นูแวลมีบุตรสาวหนึ่งคน (ซาร่า) กับแคทรีน ริชาร์ด ภรรยาคนที่สอง ปัจจุบัน นูแวลอยู่กินกับมีอา ฮักก์ สถาปนิกชาวสวีเดนผู้ซึ่งทำงานที่สำนักงานสถาปนิก Habiter Autrement (HA) ในกรุงปารีส
ผลงานเด่น :
The Institut du Monde Arabe (IMA) or Arab World Institute (AWI)

Guthrie Theater

Torre Agbar

            วันที่ 30 มีนาคม 2008 Jean Nouvel ได้รางวัลพริตซ์เกอร์ จากผลงานตลอดชีวิตโดยรวมที่โดดเด่น และได้รับคำชมเชยจาก โธมัส พริตซ์เกอร์ ว่า "มีการคิดค้นที่แปลกใหม่และกล้าหาญ และตั้งข้อสงสัยกับรูปแบบที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป และยังก้าวพ้นขอบเขตการสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง"

แนวความคิดของ Jean Nouvel ที่นำมาใช้ในการออกแบบผลงาน 3 มิติ





            ผลงานของสถาปนิกที่ชื่อ Jean Nouvel ซึ่งแนวคิดในการออกแบบของเขาจะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้เกิดความกลมกลืน(Harmony)
            ในขณะเดียวกันเขาก็ยังสร้างสรรค์ผลงานของเขาผ่าน ความโปร่งใส,เงา และแสง และเขายังออกแบบให้เกิดจังหวะ (Rhythm) รวมถึงการทำซ้ำ (Repetition) ทำให้งานมีความน่าสนใจและไม่น่าเบื่อ